วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2553

ระบบสืบพันธุ์

เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากร่างกายจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วมีสิวขึ้นมีขนขึ้นที่รักแร้และในที่ลับและมีการเปลี่ยนแปลงทางเพศของระบบสืบพันธุ์

จากรูปจะเห็นส่วนประกอบต่างๆทั้งภายนอกและภายในของอวัยวะเพศชายอวัยวะเพศภายนอกประกอบด้วยองคชาตและถุงอัณฑะภายในถุงอัณฑะจะมีลูกอัณฑะซึ่งทำหน้าที่สร้างตัวอสุจิและสร้างฮอร์โมนเพศตัวอสุจิที่ถูกสร้างจะถูกนำไปเก็บไว้ที่ถุงผลิตน้ำอสุจิหรือถุงพักน้ำกามต่อจากนั้นจะมีท่อหลั่งน้ำกามนำน้ำกามมาสู่ท่อปัสสาวะปกติน้ำกามจะถูกสร้างและนำมาเก็บสะสมไว้ที่ถุงพักน้ำกามนี้ตลอดเวลาเมื่อน้ำอสุจิมีจำนวนมากก็จะมีความรู้สึกทางเพศและมีความต้องการทางเพศสูงกว่าปกติและจะเกิดการขับน้ำกามที่กำลังจะล้นนี้ออกมาเองทางท่อปัสสาวะภายใต้กลไกทางจิตใจในตอนกลางคืนความรู้สึกทางเพศจะกระตุ้นให้เกิดความฝันทางเพศเช่นฝันว่าได้กอดจูบหรือร่วมเพศแล้วจะเกิดความรู้สึกทางเพศอย่างสูงจนหลั่งน้ำอสุจิออกมาในขณะหลับเรียกว่า“ฝันเปียก”ปรากฏการณ์เช่นนี้แสดงว่าร่างกายเริ่มมีการสร้างน้ำอสุจิอย่างต่อเนื่องด้วยอิทธิพลของฮอร์โมนเพศชายซึ่งก็แสดงว่าเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นนั่นเอง
ผิวหนังบริเวณ
อวัยวะเพศนี้จะมีความไวต่อการกระตุ้นมากเป็นพิเศษเมื่อไปถูกต้องสัมผัสเข้าจะเกิดความรู้สึกทางเพศองคชาตจะแข็งตัวและขยายตัวขึ้นถึงสองสามเท่าการเกิดความรู้สึกทางเพศจากการได้มองภาพโป๊หรือจากจินตนาการทางเพศก็ทำให้เกิดการแข็งตัวขององคชาตได้เช่นกันเมื่อความรู้สึกทางเพศลดลง
องคชาตก็จะคืนตัวกลับสู่สภาพเดิมในวันหนึ่งองคชาตอาจแข็งตัวได้หลายครั้งบางครั้งอาจเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสมเช่นในขณะเรียนหนังสือหรืออยู่ต่อหน้าผู้อื่นอาจทำให้รู้สึกอายหรือวิตกกังวลเกรงว่าผู้อื่นจะมองเห็นการเบี่ยงเบนความคิดหรือการกระทำให้พ้นจากเรื่องเพศในขณะนั้นจะช่วยให้องคชาตอ่อนตัวลงได้อย่างรวดเร็ว น้ำอสุจิเป็นของเหลวสีขาวข้นประกอบด้วยตัวอสุจิและของเหลวที่สร้างขึ้นจากถุงผลิตน้ำหล่อเลี้ยงอสุจิหรือถุงพักน้ำถามต่อมลูกหมากและต่อมเคาเปอร์ของเหลวนี้จะเป็นอาหารของตัวอสุจิและช่วยให้ตัวอสุจิแข็งแรงเดินทางได้สะดวกเมื่อมีการกระตุ้นทางเพศจนถึงระยะ“สุดยอดทางเพศ”จะมีการฉีดน้ำอสุจิออกมาทางท่อปัสสาวะเป็นจังหวะๆประมาณ10ครั้งห่างกันครั้งละ1วินาทีรวมจำนวนน้ำอสุจิที่หลั่งออกมาประมาณ2-5ลูกบาศก์เซนติเมตรซึ่งจะมีตัวอสุจิประมาณ120-250ล้านตัว
ตัว
อสุจิเป็นเซลสืบพันธุ์เพศชายที่ผลิตขึ้นมาจากลูกอัณฑะมีขนาดเล็กมากมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นตัวอสุจิประกอบด้วยส่วนหัวส่วนกลาง(ลำตัว)และส่วนหางซึ่งจะโบกสะบัดทำให้ตัวอสุจิเคลื่อนที่ได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์กันจนถึงจุดสุดยอดตัวอสุจิจะถูกหลั่งออกมาภายในช่องคลอดของฝ่ายหญิงหลังจากนั้นตัวอสุจิจะแหวกว่ายเข้าไปในมดลูกและท่อมดลูกจนไปพบ“ไข่”ของเพศหญิงตัวอสุจิจะไชเข้าไปภายในไข่ได้เพียงตัวเดียวและผสมกับไข่นั้นเกิดเป็นตัวอ่อนของเด็กรวมการผสมระหว่างตัวอสุจิและไข่นี้เรียกว่า“การปฏิสนธิ”

อวัยวะเพศหญิงส่วนที่สามารถเห็นได้ภายนอกประกอบด้วยเนินหัวหน่าวแคมนอกแคมในเวสติบูลคลิตอริสปากช่องคลอดและช่องปัสสาวะ
อวัยวะเพศภายในผู้หญิงที่ไม่สามารถมองเห็นได้ประกอบด้วยช่องคลอดมดลูกท่อนำไข่และรังไข่จะสังเกตได้ว่าเมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่นบริเวณอวัยวะเพศจะมีการเติบโตขยายตัวเพิ่มขนาดขึ้นบริเวณเนินหัวหน่าวซึ่งมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมนูนอยู่ระหว่างต้นขาสองข้างและท้องน้อยจะใหญ่ขึ้นจากการมีไขมันมาสะสมบริเวณนี้จะมีความไวต่อความรู้สึกสัมผัสโดยเฉพาะอย่างยิ่งการกดเนื่องจากมีปลายประสาทรับรู้อยู่เป็นจำนวนมากด้านล่างของเนินหัวหน่าวจะเป็นแคมนอกซึ่งเป็นรอยพับของผิวหนัง2ข้างมาชนกันแคมนอกประกอบด้วยต่อมเหงื่อต่อมขนและไขมันเมื่อมองจากภายนอกจะเห็นแคมนอก2ข้างเท่านั้นต่อเมื่อเปิดแคมนอกออกจึงจะเห็นแคมในซึ่งเป็นรอยพับของผิวหนังอยู่ระหว่างปากช่องคลอดกับแคมนอกแคมในมีขนาดและสีสันแตกต่างกันบางคนเล็กบางคนใหญ่บางคนมีสีแดงเรื่อๆบางคนมีสีคล้ำแคมในประกอบด้วยเส้นเลือดและเส้นประสาทมากมายจึงเป็นบริเวณที่มีความไวต่อการสัมผัสมากเช่นกัน
ช่องที่อยู่ระหว่างแคมในทั้งสองข้างเรียกว่าเวสติบูลจะมีรูเปิดของท่อปัสสาวะและปากช่องคลอดบริเวณด้านหน้าของเวสติบูลซึ่งแคมในสองข้างมารวมกันจะมีก้อนเนื้อเล็กๆที่เรียกว่าคลิตอริสซึ่งเป็นอวัยวะส่วนที่เปรียบเทียบได้กับองคชาตของฝ่ายชายคือเมื่อมีความรู้สึกทางเพศจะแข็งตัวขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อีกเท่าตัวเลยทีเดียวบริเวณคลิตอริสจะมีความไวมากที่สุดต่อการสัมผัสเมื่อมีการสัมผัสบริเวณนี้จะเกิดอารมณ์เพศและความต้องการทางเพศได้มากการกระตุ้นที่อื่นๆใกล้ๆได้แก่บริเวณแคมในแคมนอกและเนินหัวหน่าวจะทำให้เกิดความรู้สึกทางเพศได้เช่นกันเมื่ออวัยวะเพศถูกกระตุ้นจนเกิดความรู้สึกทางเพศผนังช่องคลอดจะขับน้ำเมือกออกมาหล่อเลี้ยงน้ำเมือกยังถูกสร้างและขับมาจากต่อมบาร์โธลินที่ผนังแคมนอกเพื่อให้ช่องคลอดลื่นเหมาะสมในการสอดใส่อวัยวะเพศของฝ่ายชายเมื่ออวัยวะเพศถูกกระตุ้นต่อไปอีกไม่นานความเสียวจะขึ้นจนถึงจุดสุดยอดทางเพศพร้อมๆกับเกิดการเกร็งของกล้ามเนื้อทั่วร่างกายช่องคลอดเกิดการหดตัวเป็นจังหวะ

ช่องคลอดจะเป็นช่องเล็กๆที่มีความยืดหยุ่นได้มากที่ปากช่องคลอดซึ่งเปิดที่บริเวณเวสติบูลจะมีเยื่อบางๆรอบปากช่องคลอดเว้นเป็นช่องตรงกลางเข้าไปเป็นช่องคลอดเยื่อบางๆนี้เรียกว่าเยื่อพรหมจารีมักจะฉีกขาดได้ง่ายเมื่อเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายเยื่อนี้ก็จะฉีกขาดไปเองซึ่งไม่มีอันตรายแต่ประการใดสมัยก่อนผู้หญิงไม่ค่อยมีกิจกรรมโลดโผนเหมือนสมัยนี้เยื่อพรหมจารีจึงอาจไม่ขาดเวลามีเพศสัมพันธ์กันครั้งแรกอวัยวะเพศชายจะต้องผ่านเยื่อนี้เข้าไปทำให้เยื่อนี้ฉีกขาดมีอาการเจ็บปวดและเลือดออกเล็กน้อยจึงได้ชื่อว่าเป็นเยื่อพรหมจารีคือเยื่อที่แสดงว่าหญิงนั้นไม่เคยผ่านการร่วมเพศมาเลยนั่นเองแต่ในปัจจุบันนี้พบว่าถึงยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เยื่อพรหมจารีก็ฉีกขาดไปโดยธรรมชาติอยู่แล้วการไม่มีเยื่อพรหมจารีจึงไม่ใช่เครื่องพิสูจน์ว่าหญิงนั้นเคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว
การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองก็จะทำให้เยื่อพรหมจารีฉีกขาดได้เช่นกันช่องคลอดที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์หลายๆครั้งจะเกิดการยืดหยุ่นได้มากกว่าเดิมและถ้ามีการคลอดบุตรเด็กจะคลอดออกจากมดลูกผ่านช่องคลอดนี้ออกมาช่องคลอดจึงยืดหยุ่นได้มากๆหลังคลอดแล้วมักจะไม่เล็กไม่กระชับเหมือนเดิม
มดลูกเป็นอวัยวะเพศที่เป็นโพรงมีผนังเป็นกล้ามเนื้อหนาขนาดและลักษณะคล้ายลูกชมพู่ขนาดใหญ่โพรงมดลูกจะติดต่อกับช่องคลอดตรงปากมดลูกที่ด้านข้างของมดลูกจะมีท่อมดลูกไปโผล่บริเวณใกล้ๆรังไข่เมื่อไข่สุกออกมาจากรังไข่จะเคลื่อนที่ผ่านท่อมดลูกเพื่อรอรับการผสมกับตัวอสุจิภาวะเช่นนี้เรียกว่าการตกไข่ซึ่งจะเกิดขึ้นเดือนละครั้งในเวลาช่วงกลางระหว่างการมีประจำเดือนทุกเดือน
ถ้าไข่ได้มีการผสมกับตัวอสุจิจะกลายเป็นตัวอ่อนเคลื่อนตัวมาฝังตัวที่เยื่อบุโพรงมดลูกเยื่อบุนี้จะเตรียมพร้อมรับการฝังตัวของตัวอ่อนเช่นนี้ทุกเดือนเดือนใดที่ไม่มีการฝังตัวของตัวอ่อนเยื่อบุที่เตรียมพร้อมนี้ก็จะหลุดลอกออกมาพร้อมกับมีเลือดออกจำนวนหนึ่งเรียกว่า“ประจำเดือน”นั่นเองวัยรุ่นที่มีประจำเดือนทุกเดือนแสดงถึงความเตรียมพร้อมของร่างกายที่จะมีการสืบพันธุ์และมีบุตรถ้ามีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาใกล้ๆเวลาตกไข่ตัวอสุจิจะมีโอกาสผสมกับไข่มากโอกาสเกิดการปฏิสนธิจะมีสูงเมื่อตัวอ่อนที่ปฏิสนธิแล้วมาฝังตัวที่เยื่อบุโพรงมดลูกมดลูกจะเปลี่ยนแปลงโดยโตขึ้นมีการสร้างหลอดเลือดเพื่อหล่อเลี้ยงตัวอ่อนและจะไม่มีการหลุดลอกของเยื่อบุมดลูกอีกเกิดภาวะ“ตั้งครรภ์”คือประจำเดือนไม่มามดลูกโตขึ้นอย่างรวดเร็วฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงไปสามารถตรวจวัดระดับฮอร์โมนที่เกิดในขณะตั้งครรภ์ได้โดยการตรวจปัสสาวะ
คงรู้สึกกระจ่างขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในวัยนี้การมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับร่างกายจะช่วยให้สามารถเข้าใจสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อตัวเองเมื่อมีครอบครัวและมีบุตรพฤติกรรมทางเพศที่เป็นปกติโดยธรรมชาติเป็นสิ่งที่ควรเรียนรู้และใช้ให้เป็นปกติโดยธรรมชาติเป็นสิ่งที่ควรเรียนรู้และใช้ให้เป็นประโยชน์กับตนเองอีกทั้งยังช่วยป้องกันปัญหาทางเพศที่อาจเกิดขึ้นได้

การตั้งครรภ์ (pregnancy) การปฏิสนธิ (Fertilization)
ความสามารถของเซลล์ไข่ในการปฏิสนธิกับเชื้ออสุจิ อยู่ได้นานประมาณ 15-18 ชม . หลังจากการตกไข่ถ้าเซลล์ไข่ไม่ได้รับการผสมก็จะสลายตัวไป ส่วนเชื้ออสุจิมีชีวิตอยู่ในระบบสืบพันธุ์เพศหญิงได้นานประมาณ48 ชม . การปฏิสนธิระหว่างเชื้ออสุจิและเซลล์ไข่เกิดขึ้นในท่อนำไข่ ไกลโคเจนที่สะสมในชั้นเยื่อบุของช่องคลอดถูกเปลี่ยนเป็นกรดแลกติก ภาวะ
กรด ที่เพิ่มขึ้นทำให้เชื้ออสุจิเคลื่อนที่ได้ดีขึ้น เอสโทรเจนมีลให้มดลูกบีบตัวช่วยพาเชื้ออสุจิไปยังท่อนำไข่
ส่วนเซลล์ไข่จะถูกปัดเข้าไปในท่อนำไข่โดยฟิมเปรีย เมื่อเชื้ออสุจิสัมผัสกับเซลล์ไข่แคลเซียมจากภายนอกเคลื่อนผ่านช่องแคลเซียมเข้าสู่ภายในหัวของเชื้ออสุจิ การเพิ่มของแคลเซียมจะกระตุ้นให้เชื้ออสุจิปล่อยเอนไซม์อะโครซิน และเจาะผ่านชั้นโซนาเพลลูซิดา ทันทีที่เยื่อหุ้มไข่และเยื่อหุ้มเชื้ออสุจิรวมตัวกัน ภายในเซลล์ไข่เริ่มการแบ่งตัวแบบไมโอซิสครั้งที่ 2 ต่อ ได้เป็นเซลล์ไข่ที่มีโครโมโซมลดลงครึ่งหนึ่ง เมื่อโปรนิวเคลียสทั้งสองชนิดรวมตัวกันได้ตัวอ่อนที่มี 46 โครโมโซม ตัวอ่อนแบ่งตัวให้กลุ่มเซลล์ (morula) ขณะเดินทางมายังมดลูกหลังจากปฏิสนธิได้ 6 วันตัวอ่อนจะะแบ่งเซลล์ได้ประมาณ 64 เซลล์
จากนั้นพัฒนาเป็นขั้นบลาสโทซิสต์ ซึ่งประกอบด้วยเซลล์ชั้นในซึ่งจะเจริญไปเป็นทารก เซลล์ชั้นนอกเรียกว่า โทรโฟบลาสต์ การฝังตัวของตัวอ่อน บลาสโทซิสต์จะลอยอยู่ในของเหลวในโพรงมดลูกอยู่ประมาณ 1 วันก่อนที่จะฝังตัวในผนังมดลูกในวันที่ 7 หลังการปฏิสนธิ
เมื่อบลาสโทรซิสต์ฝังตัวเซลล์โทรโฟบลาสต์จะพัฒนาเป็น 2 ชั้น เซลล์ชั้นในที่หุ้มตัวอ่อนเรียกว่าไซโทโทรโฟบลาสต์ ส่วนชั้นนอกเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์ซินซิทิโอโทรโฟบลาสต์ เซลล์โทรโฟบลาสต์เปลี่ยนแปลงเป็นส่วนหนึ่งของรก เมื่อรกเจริญเติบโตจะทำหน้าที่แลกเปลี่ยนสารอาหาร ออกซิเจน และของเสยต่างๆ ระหว่างระบบไหลเวียนของแม่และลูก

ฮอร์โมนจากรก
ขณะตั้งครรภ์รกจะสร้างฮอร์โมนที่จำเป็นสำหรับการตั้งครรภ์หลายตัวจากชั้นเซลล์ซินซิทิโอโทรโฟบลาสต์
ก . โกนาโดโทรฟินจากรก
สามารถวัด HCG ในปัสสาวะของมารดาได้ตั้งแต่วันที่ 9 ของการตั้งครรภ์และระดับจะสูงขึ้นระหว่างสัปดาห์ที่ 9-12 หลังจากนั้นจะลดลง การตรวจพบ HCG ในปัสสาวะหรือเลือดใช้เป็นดัชนีบ่งชี้ถึงการตั้งครรภ์ HCG ทำหน้าที่ยืดอายุการทำงานของคอร์ปัสลูเทียม กระตุ้นการสร้างและหลั่งฮอร์โมนณัแลกซินเพื่อยับยั้งการหดตัวของมดลูก
ข . Human chorionic somatomammotropin (HCS)
เป็นฮอร์โมนชนิดเปปไทด์ประกอบด้วยกรดอะมิโน 191 หน่วย มีโครงร้างเหมือนฮอร์โมน โซมาโทโทรฟินหรือโกรทฮอร์โมน และโพรแลกทิน แต่มีผลแบบโพรแลกทินสูงกว่าโกรทฮอร์โมน ขณะที่ระดับ HCG ลดต่ำลงหลังจาก 3 เดือนของการตั้งครรภ์ รกจะสร้าง HCS ในสัปดาห์ที่ 4 และจะเพิ่มระดับขึ้น เรื่อยๆ จนถึงระดับสูงสุดเมื่อใกล้คลอด
ค . โพรเจสเทอโรน
รกจะเริ่มสร้างโพรเจสเทอโรนในสัปดาห์ที่ 6 ของการตั้งครรภ์ถึงระดับสูงสุดเมื่อใกล้คลอด โพรเจสเทอโรนถูกขับทิ้งทางปัสสาวะ โพรเจสเทอโรนเป็นฮอร์โมนที่สำคัญสำหรับการตั้งครรภ์โดยเตรียมเยื่อบุมดลูกเพื่อรับตัวอ่อน ทำงานร่วมกับฮอร์โมนรีแลกซิน ลดการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของแม่ไม่ให้ต่อต้านการมีทารกซึ่งเปรียบเสมือนเซลล์แปลกปลอมในร่างกายของแม่
ง . เอสโทรเจน
รกสร้างเอสโทรเจนได้ทั้งเอสทราไดออล เอสโทรนและเอสไทรออล แต่สร้างเอสไทรออลได้มากกว่าฮอร์โมนอีก 2 ชนิดและมีระดับเพิ่มขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์คือช่วยในการพัฒนาเต้านมและทำให้กล้ามเนื้อมดลูกมีขนาดโตขึ้น ทำให้เอ็นยึดต่างๆในอุ้งเชิงกราน และ
กระดูก หังหน่าว ช่วยให้บริเวณช่องคลอดขยายออกได้กว้างขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น